ปี 2025 กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของผู้หลงใหลในดาราศาสตร์ ด้วยเหตุการณ์ทางฟากฟ้าที่จะพาเราไปสัมผัสความงดงามและความลึกลับของเอกภพอีกครั้ง เตรียมกล้องโทรทรรศน์และหัวใจให้พร้อม และนี่คือ “10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่ต้องจับตาในปี 2025”

1. ฝนดาวตกควอดรานติด Quadrantid meteor shower (3-4 มกราคม)
เปิดปีด้วยหนึ่งในฝนดาวตกที่งดงามที่สุด ควอดรานติดมักมีอัตราดาวตกสูงถึง 200 ดวงต่อชั่วโมง โดยเฉพาะในซีกโลกเหนือ หากท้องฟ้าแจ่มใส คุณจะได้เห็นแสงจากเศษฝุ่นเล็กๆ ที่เคลื่อนผ่านชั้นบรรยากาศราวกับมีเทพนิยายบนฟากฟ้า

2. ดาวศุกร์สว่างที่สุด Venus at its Brightest (19 กุมภาพันธ์)
ดาวศุกร์ในปีนี้จะส่องแสงได้ถึง -4.5 แมกนิจูด สว่างไสวเหมือนแสงจากโคมไฟกลางฟ้า การใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องไปในช่วงนี้จะเผยให้เห็นดาวศุกร์ในรูปร่างเสี้ยวเล็กๆ ที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ

3. จันทรุปราคาเต็มดวง Total Lunar Eclipse (13-14 มีนาคม)
นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 ดวงจันทร์จะกลายเป็นสีแดงเข้มจากแสงอาทิตย์ที่หักเหผ่านชั้นบรรยากาศโลก ปรากฏการณ์นี้กินเวลานานถึง 65 นาที หากคุณอยู่ในอเมริกาเหนือ เตรียมตัวตื่นตาตื่นใจได้เลย

4. แสงเหนือใน Solar Maximum Northern Lights at Equinox (20 มีนาคม และ 22 กันยายน)
ด้วยช่วงเวลาของ Solar Maximum ในปีนี้ พายุสุริยะจะพาแสงออโรร่ามาให้ชมอย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นในแถบอาร์กติกหรือแอนตาร์กติกา ฟากฟ้าจะถูกแต่งแต้มด้วยม่านสีเขียว ม่วง และชมพูที่เคลื่อนไหวราวกับระบำบนสรวงสวรรค์

5. สุริยุปราคาบางส่วน Partial Solar Eclipse (29 มีนาคม)
ชาวอเมริกาเหนือและยุโรปจะได้ชมดวงอาทิตย์ที่ถูกบดบังบางส่วนถึง 94% ในตอนเช้า เหมือนฟากฟ้าถูกห่มด้วยเงาลึกลับ

6. ฝนดาวตกไลริดส์ Lyrid Meteor Shower (21-22 เมษายน)
ฝนดาวตกนี้มีแสงที่สดใสและลูกไฟที่พุ่งเร็ว คุณจะได้เห็นดาวตกประมาณ 20 ดวงต่อชั่วโมงในช่วงพีค แถมเดือนเมษายนยังเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมทางช้างเผือก

7. ฝนดาวตกเอทา อควอริดส์ Eta Aquariid Meteor Shower (6-7 พฤษภาคม)
ฝนดาวตกนี้ เกิดจากเศษฝุ่นของดาวหางฮัลเลย์ (Halley’s Comet) ฝนดาวตกนี้มีจุดเด่นคือความถี่ในซีกโลกใต้ โดยอัตราสูงสุดอยู่ที่ 60 ดวงต่อชั่วโมง ท้องฟ้าที่ไร้แสงจากดวงจันทร์จะทำให้การชมปรากฏการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

8. ดาวเสาร์ตรงข้ามดวงอาทิตย์ Saturn at Opposition (21 กันยายน)
ในช่วงนี้ ดาวเสาร์จะอยู่ในตำแหน่งที่โลกอยู่ตรงกลางระหว่างดาวเสาร์และดวงอาทิตย์ ทำให้มันสว่างที่สุดและเห็นได้ชัดที่สุด หากมีกล้องโทรทรรศน์ คุณจะสามารถชมวงแหวนของดาวเสาร์ได้อย่างละเอียด

9. การเข้าใกล้กันของดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดี (12 สิงหาคม)
ในยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น คุณจะเห็นดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้กันมาก จนดูเหมือนเป็นจุดเดียวกันบนท้องฟ้า ดาวศุกร์จะสว่างที่ -3.9 แมกนิจูด และดาวพฤหัสบดีที่ -1.8 แมกนิจูด ทำให้มันเป็นภาพที่งดงามและน่าจับตามอง ราวกับจุดแสงคู่ที่ดูเหมือนหลอมรวมกัน คุณอาจไม่อยากพลาดการเก็บภาพนี้ไว้ในความทรงจำ

10. ซูเปอร์มูนบีเวอร์ Beaver Supermoon (5 พฤศจิกายน)
ปิดท้ายปีด้วยซูเปอร์มูนที่ใกล้โลกที่สุดในรอบหลายปี ดวงจันทร์จะอยู่ในระยะห่างเพียง 356,833 กิโลเมตร ใกล้จนดูเหมือนคุณสามารถเอื้อมมือแตะได้

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรในวงการดาราศาสตร์ ปี 2025 จะทำให้คุณตกหลุมรักท้องฟ้าอีกครั้ง เพราะทุกครั้งที่เราแหงนหน้ามองขึ้นไป เราไม่ได้แค่เห็นดาว แต่เรากำลังเห็นประวัติศาสตร์แห่งเอกภพที่รอให้เราไขความลับของมันอยู่!

ที่มา : https://www.livescience.com/space/the-10-best-stargazing-events-of-2025